สะเก็ดแผลโรคแคงเกอร์​ที่หลุดหายไป

Thirasak Chuchoet • July 2, 2024
สะเก็ดแผลโรคแคงเกอร์​ที่หลุดหายไป ในส้ม-มะนาว-ส้มโอ

ภาพ: ผลมะนาวที่เป็นโรคแคงเกอร์ เชื้อสาเหตุ: แบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis pv.citri

สะเก็ดแผลโรคแคงเกอร์​ที่หลุดหายไป ในส้ม-มะนาว-ส้มโอ​

    มีคำถามว่า​ ทำไมถึงไม่แนะนำสารประกอบทองแดง​ หรือในชื่อคอปเปอร์ออกซี่คลอไรด์, คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์​, คอปเปอร์ซัลเฟต​ (ไตรเบสิค), คิวปรัสออกไซด์​ และบอร์โดมิกเจอร์  (บอร์โด​ มาจากชื่อเมือง​ บอร์โดซ์​ (Bordeaux)​ ประเทศฝรั่งเศส​ เพราะคิดค้นได้ที่นั้น)​ ในการป้องกันกำจัดโรคแคงเกอร์​ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อ​ ซานโทโมนาส อะโซโนโพดีส (Xanthomonas axonopodis pv.citri)

    คำตอบคือ​ ถ้านานๆ​ พ่นสัก​ครั้ง-สองครั้ง​ คงไม่มีประเด็นอะไร​ แต่โดยทั่วไปมักใช้กันเป็นนิด​-เป็นกิจวัตร​ ไม่พ่นคอปเปอร์นอนไม่หลับ เหตุที่ไม่แนะนำพ่นบ่อยๆ​ และไม่แนะนำพ่นร่วมกับยาอื่นๆ​ เพราะ

    1. คุณสมบัติ​ความเป็นด่าง​ สารประกอบคอปเปอร์มีฤทธิ์​ให้ด่างแก่น้ำ​ หรือตัวทำละลายสูง​ ปกติสารประกอบคอปเปอร์ที่ความเข้มขั้น​ 1% เมื่อละลายน้ำ​ หรืออัตรา​ 10 กรัมต่อน้ำ​ 1 ลิตร​ จะแตกตัวให้ค่า​ pH มากว่า 7​ ขึ้นไป ยาตัวอื่นอาจเสียคุณสมบัติกำจัดโรคหรือแมลงไป

    2. สารประกอบคอปเปอร์​ มีคุณสมบัติฟอกขาว​ หรือกัดผิว​ การพ่นประจำจะทำให้นวลใบ​ (ไขเคลือบผิวใบ)​ บางลง​ และถูกทำลาย​ ทำให้เกิดโรคอื่นๆ​ ตามมาได้ง่าย​ เช่น​ โรคสะแคป​ โรคเมลาโนส และโรคดาวกระจายบนผลส้ม-มะนาว (ความรู้ที่ขาดหายไปตามกาลสมัย)​ ที่สังเกตุได้ง่ายคือ​ ใบหรือผลมักมีสีซีดจางลง​ แลดูไม่มันวาว

    3. สารประกอบคอปเปอร์​ เป็นสารที่มีการใช้มาอย่างยาวนานหลายร้อยปี​ และมีพัฒนาการสารมาอย่างต่อเนื่อง​ ถ้าจำไม่ผิดเริ่มจากสารประกอบคอปเปอร์ที่มีส่วนผสมของสารปรอท​ ต่อมาจึงพัฒนานำสารปรอทออกไป​ จนมาเป็น​ บอร์โดมิกเจอร์​ > คอปเปอร์​ซัลเฟต​ > คิวปรัสออกไซด์​ > คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์​ และคอปเปอร์​ออกซี่คลอไรด์​ คล้ายกับสารประกอบฟอสโฟนิก​ ที่สุดท้ายพัฒนามาเป็น​ ฟอสอิทิลอะลูมิเนียม​ (โดยการทำปฏิกิริยา​ระหว่าง​ กรดฟอสโฟนิก​ กับ​ อะลูมิเนียม)​ การพัฒนา​สารคอปเปอร์​และฟอสโฟนิก​ เพื่อลดความเป็นพิษ​ (หรือมักเรียกทั่วไปว่า​ ยาร้อน)​ แต่กระนั้นก็ยังเป็นพิษอยู่บ้าง​ ในเอกสารกล่าวว่านักบวชชาวคริสต์​ในประเทศฝรั่งเศส​ไม่พอใจกับใบองุ่นที่กระด้าง​ แห้งกร้านเพราะพ่นคอปเปอร์​ แม้จะใช้รักษาโรคราน้ำค้างในองุ่นได้

ภาพ: ใบส้มโอที่เป็นโรคแคงเกอร์ เชื้อสาเหตุ: แบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis pv.citri

    แล้วจะใช้อะไรเพื่อป้องกันกำจัด​โรคแคงเกอร์.?​

    ตอบ​ คาซูกะมัยซิน​ 60​ ซีซี​ (ชื่อการค้า ไฮเจ็ท) ผสมร่วมกับ แบคบีท​ (ยากำจัดเชื้อแบคทีเรียภายนอกของ​ บ.มิวสิค​ อะโกร)​ 20 ซีซี​ ต่อน้ำ​ 20​ ลิตร​ หรือ คาซูกะมัยซิน​ 60​ ซีซี​ (ชื่อการค้า ไฮเจ็ท) ผสมร่วมกับ โฟร์พิงค์ (ซิงค์ออกไซด์ ขึ้นทะเบียนปุ๋ยธาตุเสริมสังกะสี 1%) พ่น​ 2-3 ครั้ง​ ทุก​ 10 วัน​

    ควรผสมสารเคลือบใบที่เป็นไวท์ออยล์ หรือพาราฟินออยล์ ทดแทนการใช้สารจับใบหรือสารลดแรงตรึงผิว ตัวอย่าง ไวท์ออยล์ และพาราฟินออยล์ เช่น เอนโดซ่า (ไวออยล์) อัตราใช้ 30-40 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร และ เรดฮ็อท (พาราฟินออยล์ ผสม ซิลอคแซนออยล์) อัตราใช้ 10-20 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร

หมายเหตุ:

    หากสงสัยว่าทำไมใช้​ คาซูกะมัยซิน​ อัตราใช้สูงถึง​ 60​ ซีซี..?

    ตอบ​ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อเกือบ​ 20 ปีที่แล้ว​ ครั้งแรกที่ผมรู้จักคาซูกะมัยซิน​ 2% เอกสารแนะนำอัตราขั้นต้นคือ​ 60-80​ ซีซี​ ต่อน้ำ​ 20​ ลิตร​ ต่อมาเมื่อพบการระบาดของโรคต้นตายใบขาวจากเชื้อแบคทีเรียในหอม​ ที่​ ต.เมืองแปง อ.ปาย​ จ.แม่ฮ่องสอน​ และเขต​ จ.​อุตรดิตถ์​ ได้สอบถามชาวสวนหอมว่า​ ได้พ่น​ คาซูกะมัยซินไหม​

    ตอบว่า​ พ่น​... แต่รักษาโรคไม่ได้

    เมื่อสอบถามต่อ​ จึงได้รู้ว่า​ ใช้อัตรา​ 20​ ซีซี​ ต่อ​น้ำ​ 20​ ลิตร​ เพราะพนักงานขายแนะนำมาอย่างนี้​

    ปัจจุบันหลังระเบียบการขึ้นทะเบียนยาใหม่ประกาศใช้​ ส่วนใหญ่อัตราบนฉลากคาซูกะมัยซิน​ 2% ลดลงเหลือ​ 20-30​ ซีซี​ ต่อน้ำ​ 20​ ลิตร​ ดีหน่อยก็​ 40​ ซีซี​

    คำถาม​ ยาตัวเดิม​ เปอร์เซ็นต์​เท่าเดิม​ เมื่อกาลเวลาผ่านไป​ อัตราใช้ควรเพิ่มขึ้นหรือลดลง​ และต่อให้มีการเสริมสารปรุงแต่งเพื่อเสริมประสิทธิภาพ​เข้าไปด้วย​ เชื่อว่า​ถ้าหากไม่ใช่เติมสารกำจัดโรคชนิดอื่นลงไปประสิทธิภาพ​คงไม่ดีขึ้นจนผิดหูผิดตา

ยาแมลง กลุ่ม 1 ออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
By Thirasak Chuchoet June 11, 2025
ยาแมลง กลุ่ม 1 กลไกออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้แมลงชักกระตุกและลาโลก
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความ
By Thirasak Chuchoet June 3, 2025
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง โรคนี้แม้จะไม่ทำให้เนื้อผลมะม่วงเน่าเสียโดยตรง แต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพภายนอกของผล
คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาต
By Thirasak Chuchoet May 28, 2025
สารกำจัดแมลงกลุ่ม 14 มีจำหน่ายเพียงสารเดียว คือ คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คุมควบกล้ามเนื้อไม่ได้ นำไปสู่ภาวะเป็นอัมพาตอ่อนแรง (Flaccid Paralysis) และลาโลกไป
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
By Thirasak Chuchoet May 27, 2025
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในการศึกษาเรื่องกลไกออกฤทธิ์
กลไกออกฤทธิ์ (Mode of Action) ของยากลุ่ม 19 ทำให้ไรเกิดอาการตื่นตัว ใจเต้นแรง สั่นและความดันขึ้นสูง
By Thirasak Chuchoet April 29, 2025
ยากลุ่ม 19: อะมิทราซ ทางเลือกสลับกลุ่มยาไร.!!
    ATP: Adenosine Triphosphate เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อพืช
By Thirasak Chuchoet April 25, 2025
ATP หรือ “เอทีพี” ย่อมาจาก อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (Adenosine Triphosphate) เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชทุกชนิด
แจกสูตร ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอกและสูตรเบรกใบอ่อน
By Thirasak Chuchoet April 23, 2025
แจกสูตร.!! ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอก และสูตรเบรกใบอ่อน-บล็อกใบอ่อน
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกคีเลต
By Thirasak Chuchoet April 22, 2025
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกนีเซียมคีเลต
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
By Thirasak Chuchoet April 21, 2025
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
เอกสาร
By Thirasak Chuchoet January 4, 2025
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย "การดูดซึมปุ๋ยและอาหารเสริมทางใบ"
More Posts