โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง (Fruit Footy Blotch)

Thirasak Chuchoet • June 3, 2025

โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง (Fruit Footy Blotch หรือ Sooty Blotch)

    โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง (FFB) เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง โรคนี้แม้จะไม่ทำให้เนื้อผลมะม่วงเน่าเสียโดยตรง แต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพภายนอกของผล ทำให้ผิวมีลักษณะเป็นปื้นดำ สกปรก ไม่น่ารับประทาน และส่งผลให้ราคาตกต่ำ

ลักษณะอาการ (Symptoms)

    อาการของโรคราปื้นดำจะปรากฏเด่นชัดบนผิวของผลมะม่วง มีลักษณะสำคัญคือ

  •  เกิดปื้นสีดำหรือรอยด่างคล้ำ: ปื้นเหล่านี้มีลักษณะคล้ายเขม่าหรือฝุ่นผงสีดำปกคลุมผิวผล อาจเป็นหย่อมเล็กๆ หรือแผ่ขยายเป็นบริเวณกว้างได้
  •  รูปร่างไม่แน่นอน: ปื้นดำอาจมีรูปร่างกลม รี หรือไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อราสาเหตุและการกระจายตัวของสปอร์
  •  สามารถเช็ดออกได้ (ในระยะแรก): ในระยะเริ่มแรกหรือเมื่ออาการไม่รุนแรง ปื้นดำบางส่วนอาจสามารถเช็ดออกได้ด้วยผ้า แต่เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะติดทนและเช็ดออกได้ยาก
  •  ไม่ทำลายเนื้อผลโดยตรง: โดยทั่วไป เชื้อราสาเหตุโรคจะเจริญอยู่บนผิวของผล และไม่ได้แทงทะลุเข้าไปทำลายเนื้อผลมะม่วง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงและร่วมกับการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดอื่น อาจส่งผลต่อการสุกของผลและการเก็บรักษาได้ เช่น โรคแอนแทรคโนส
  •  มักพบในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว: อาการของโรคจะเริ่มปรากฏในช่วงที่ผลมะม่วงเริ่มแก่หรือใกล้เก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพแวดล้อมมีความชื้นเหมาะสม

เชื้อก่อโรค (Causal Organisms)

    โรคราปื้นดำไม่ได้เกิดจากเชื้อราชนิดเดียว แต่เป็นกลุ่มของเชื้อรา (complex of fungi) ที่สามารถก่อให้เกิดอาการคล้ายคลึงกันได้ เชื้อราสาเหตุที่พบบ่อยและเป็นที่รู้จัก ได้แก่:

  •  เชื้อราอัลเทอนาเรีย (Alternaria sp.) 
  •  เชื้อราคลาโดสปอเรียม (Cladosporium sp.)
  •  เชื้อราไนโกรสปอร่า (Nigrospora sp.) 
  •  เชื้อราเพสตาโลเทีย (Pestalotia sp.)

    เชื้อราเหล่านี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น และอากาศถ่ายเทไม่ดี สปอร์ของเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปกับลมและฝน

การจัดการโรค (Disease Management):

  • การจัดการทรงพุ่ม: ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แสงแดดส่องถึง และอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมบนผิวผล
  • การจัดการวัชพืช: กำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อลดแหล่งสะสมเชื้อและความชื้น (วัชพืชหลายชนิดเป็นที่อาศัยพักตัวของเชื้อรา)
  • การให้น้ำ: หลีกเลี่ยงการให้น้ำแบบสปริงเกอร์แล้วสัมผัสผลในช่วงที่ผลเริ่มแก่ หรือให้น้ำในช่วงเช้าเพื่อให้ใบและผลแห้งเร็ว
  • การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช:

           พ่นเมื่อพบการแพร่ระบาด โดยพ่น ทวินโป (azoxystrobin + difenoconazole 32.5% เนื้อครีม) อัตรา 100-150 ซีซี. ร่วมกับ พีโคล70 (propineb 70% ผงละเอียดสีขาว) อัตรา 300-500 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร พ่นทุก 5-7 วัน จำนวน 2-3 ครั้ง

           หรือ พ่นป้องกันเมื่อผลใกล้เก็บเกี่ยวหรือระยะผลแก่ โดยพ่น ทวินโป อัตรา 50-100 ซีซี. ร่วมกับ พีโคล70 อัตรา 250-300 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร พ่นทุก 10-14 วัน พ่นให้ทั่วทรงพุ่มทั้งนอและใน และหยุดใช้สารก่อนการเก็บเกี่ยว (Pre-Harvest Interval: PHI) 7-9 วัน

ยาแมลง กลุ่ม 1 ออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
By Thirasak Chuchoet June 11, 2025
ยาแมลง กลุ่ม 1 กลไกออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้แมลงชักกระตุกและลาโลก
คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาต
By Thirasak Chuchoet May 28, 2025
สารกำจัดแมลงกลุ่ม 14 มีจำหน่ายเพียงสารเดียว คือ คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คุมควบกล้ามเนื้อไม่ได้ นำไปสู่ภาวะเป็นอัมพาตอ่อนแรง (Flaccid Paralysis) และลาโลกไป
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
By Thirasak Chuchoet May 27, 2025
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในการศึกษาเรื่องกลไกออกฤทธิ์
กลไกออกฤทธิ์ (Mode of Action) ของยากลุ่ม 19 ทำให้ไรเกิดอาการตื่นตัว ใจเต้นแรง สั่นและความดันขึ้นสูง
By Thirasak Chuchoet April 29, 2025
ยากลุ่ม 19: อะมิทราซ ทางเลือกสลับกลุ่มยาไร.!!
    ATP: Adenosine Triphosphate เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อพืช
By Thirasak Chuchoet April 25, 2025
ATP หรือ “เอทีพี” ย่อมาจาก อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (Adenosine Triphosphate) เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชทุกชนิด
แจกสูตร ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอกและสูตรเบรกใบอ่อน
By Thirasak Chuchoet April 23, 2025
แจกสูตร.!! ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอก และสูตรเบรกใบอ่อน-บล็อกใบอ่อน
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกคีเลต
By Thirasak Chuchoet April 22, 2025
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกนีเซียมคีเลต
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
By Thirasak Chuchoet April 21, 2025
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
เอกสาร
By Thirasak Chuchoet January 4, 2025
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย "การดูดซึมปุ๋ยและอาหารเสริมทางใบ"
ปฏิสัมพันธ์ของธาตุอาหารพืช แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธาตุอาหารพืชในแง่ของการเจริญเติบโต
By Thirasak Chuchoet December 3, 2024
ปฏิสัมพันธ์ของธาตุอาหารพืช แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธาตุอาหารพืชในแง่ของผลกระทบที่ธาตุอาหารมีผลต่อการดูดซึมและการใช้ประโยชน์ของพืชในกระบวนการเจริญเติบโต
More Posts