เตือน!! การใช้ยากำจัดแมลงหวี่ขาวในนาข้าว (Whitefly on Rice)

Thirasak Chuchoet • July 10, 2024
เตือน!! การใช้ยากำจัดแมลงหวี่ขาวในนาข้าว (Whitefly on Rice)

    ช่วงเดือน มิ.ย. ถึงตอนนี้ กระแสข่าวการระบาดของแมลงหวี่ขาวในนาข้าวทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ โดยพบการระบาดในพื้นที่นาข้าวเขตภาคกลาง จ.นครปฐม สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา อ่างทอง ชัยนาท และอาจมีพื้นที่อื่นเพิ่มเติมอีก
    สถานการณ์ระบาดแพร่ สามารถพบจำนวนประชากรแมลงหวี่ขาวแลนดิ้งลงในผืนนา (landing) กระจายเต็มพื้นที่ภายใน 2-4 วัน คล้ายลักษณะการอพยพเป็นฝูงขนาดใหญ่ภาในข้ามคืน

จากการติดตามข่าวสารและมีผู้ให้ข้อมูล พอจะอนุมานได้ว่า

    1. ชนิดของแมลงหวี่ขาว อาจจะเป็น แมลงหวี่ยาสูบ เมื่อดูจากลักษณะลำตัว (อ้างอิงภาพถ่ายจากเพจ รู้ทันโรคพืช) ซึ่งต่างจากภาพในโพสต์นี้

    2. การทำลายข้าว ยังคงพบการทำลายในลักษณะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าว “เท่านั้น” โดยมีลักษณะเป็นจุดจ่ำสีขาวหรือสีเหลือง ยังไม่พบลักษณะโรคไวรัสในข้าว (ยังไม่มีการถ่ายทอดเชื้อไวรัส)

    3. จำนวนประชากรมหาศาล ในแปลงนาข้าวพบจำนวนแมลงหวี่ขาวต่อ 1 กอข้าว ราว 5-10 ตัว และกระจายเต็มพื้นที่ สภาพการณ์ลักษณะนี้ หากมีการแพร่เชื้อไวรัสน่าจะพบอาการไวรัสกระจายเต็มพื้นที่ แต่ในขณะที่หลายท่านที่ส่งภาพแปลงนาข้าวมาให้ช่วยวิเคราะห์ พบว่า มีอาการของโรคไวรัสประปรายตามขอบแปลง

  นอกจากนี้ ข่าวจากอาจารย์ท่านหนึ่งที่เข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ระบุว่า ไม่พบอาการของโรคไวรัสที่มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ

    4. ชาวนานิยมยาน็อค ทั้งจากภาพข่าว คลิป และข้อมูลที่ส่งมาให้ช่วยพิจารณา พบว่า เกือบทุกแปลงข้าวมีการใช้ยาไพมีโทรซีน ยาแมลงกลุ่ม 9 โดยคล้อยหลังจากพ่นยาแมลงยังไม่เสร็จ แมลงหวี่ขาวร่วงสู่ผิวน้ำ ลอยเป็นแพ 

  บางแหล่งข่าว ระบุ “มีการใช้ยาน็อคเสริมยากลุ่ม 9” บางแหล่งที่โฆษณาพ่นยา ไม่ระบุ “มีการใช้ยาเสริม.. กลุ่ม 9” แต่จากลักษณะการร่วงเป็นใบไม้พลัดใบของแมลงหวี่ขาว เข้าใจได้ว่า “มีการบวกยาน็อคเสริม” ด้วยยากลุ่ม 9 กว่าแมลงจะร่วงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 วัน ขึ้นไป (แต่ระหว่างนี้จะหยุดทำลายพืชผล)
    การใช้ยาน็อค ส่วนใหญ่นิยมยากลุ่ม 3 (กลุ่มย่อย 3A) เช่น ไซเพอร์เมทริน เดลต้าเมทริน แลมบ์ดาไซฮาโลทริน อัลฟ่าไซเพอร์เมทริน เบต้าไซเพอร์เมทริน ฯ อย่างไรก็ดี แนะนำว่า หากบวกยากลุ่ม 3 ควรเลือกใช้ “อีโทเฟนพรอก หรือ ไบเฟนทริน” เท่านั้น เนื่องจากตัวอื่นในกลุ่ม 3 อาจจะเสริมการระบาดเพิ่ม

หลังพ่น 3-5 วัน กลับมาระบาดเพิ่ม (resurgence)

    เท่าที่ได้รับข้อมูลมา พบว่า หลังพ่นยา 3-5 วัน หรือไม่เกิน 10 วัน จะพบการระบาดระลอกใหม่ในแปลงเดิม หากพิจารณาตามวงจรชีวิตและการพ่นยา อาจแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุ

    1. ระบาดระลอกใหม่หลังพ่นยา 8-10 วัน หรือมากกว่านี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากยาที่ใช้บางตัวกระตุ้นการระบาดเพิ่ม โดยแมลงหวี่ขาวเพิ่มจำนวนปริมาณไข่ต่อรอบการวางไข่ ความถี่ในการวางไข่ จำนวนสุทธิในการวางไข่ต่อ 1 ตัวเพิ่มขึ้น และเพศเมียไม่ผสมพันธุ์กับเพศผู้ ยากลุ่มนี้ เช่น ยากลุ่ม 3 (ยกเว้น อีโทเฟนพรอกซ์ เพอร์เมทริน และไบเฟนทริน) 

    2. ระบาดระลอกใหม่หลังพ่นยา 2-5 วัน มีความเป็นไปได้สูงมากที่เกิดจากการใช้อัตรายาแมลงที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะยาน็อคกลุ่ม 3 ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการคำนวณอัตรายาผิดพลาดเนื่องจากใช้โดรนพ่น หรือใช้ยาอัตราต่ำในการพ่นด้วยเครื่องสะพายหลัง

        ยากลุ่ม 3 จะออกฤทธิ์เร็วมาก (rapid knockdown) โดยมีผลให้แมลงเกิดอาจกล้ามเนื้อหดเกร็ง เป็นตะคริวเฉียบพลัน (muscle cramps) และร่วงหล่น หากใช้อัตราที่น้อยกว่าอัตราที่สามารถกำจัดแมลงได้ (LC80 หรือ LC90) จะทำให้ฤทธิ์ของยาไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งจนเป็นอัมพาต ดังนั้น ภายหลังพ่นยา 2-4 วัน แมลงจึงฟื้นกับมาเป็นปกติ และเช่นเดียวกันการใช้ยากลุ่ม 9 อัตราต่ำก็มีลักษณะไม่ต่างจากการใช้ยากลุ่ม 3 อัตราต่ำเช่นกัน แม้มีการใช้ยาทั้ง 2 กลุ่มร่วมกัน แต่จุดที่ออกฤทธิ์ต่างกันจึงมีผลต่อสาเหตุการเป็นอัมพาตและลาโลกต่างกัน

อัตรายากลุ่ม 3 และ 9 ที่แนะนำ

    กลุ่ม 3 ไบเฟนทริน 10% อัตราใช้ไม่น้อยกว่า 30-40 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร ต่อพื้นที่ 2 งาน และ อีโทเฟนฟรอกซ์ 20% อัตราใช้ไม่น้อยกว่า 30-40 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร ต่อพื้นที่ 2 งาน

    กลุ่ม 9 ไพมีโทรซีน 50% อัตราใช้ไม่น้อยกว่า 15-20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ต่อพื้นที่ 2 งาน

    ที่สำคัญ​เนื่ิองจากระบาดของแมลงหวี่ขาวเป็นบริเวณกว้าง​ การใช้ยาควรสลับกลุ่มยา​โดยในช่วงนี้อาจใช้ยากลุ่ม​ 3 ผสมกลุ่ม​ 9 ส่วนช่วงหลังกลางเดือน​ ก.ค.​ ถึงสิ้นเดือน​ ควรใช้กลุ่มอื่น​ อาทิเช่น​ ฟิโนบูคาร์บ​ 50% (กลุ่ม​ 1A) 50​ ซีซี​.ต่อน้ำ 20ลิตร ต่อพื้นที่ 2งาน​ รว่มกับ ฟลอนิคามิด​ 50% (กลุ่ม​ 29) 10-15 กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร ต่อพื้นที่ 2 งาน

ยาแมลง กลุ่ม 1 ออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
By Thirasak Chuchoet June 11, 2025
ยาแมลง กลุ่ม 1 กลไกออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้แมลงชักกระตุกและลาโลก
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความ
By Thirasak Chuchoet June 3, 2025
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง โรคนี้แม้จะไม่ทำให้เนื้อผลมะม่วงเน่าเสียโดยตรง แต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพภายนอกของผล
คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาต
By Thirasak Chuchoet May 28, 2025
สารกำจัดแมลงกลุ่ม 14 มีจำหน่ายเพียงสารเดียว คือ คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คุมควบกล้ามเนื้อไม่ได้ นำไปสู่ภาวะเป็นอัมพาตอ่อนแรง (Flaccid Paralysis) และลาโลกไป
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
By Thirasak Chuchoet May 27, 2025
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในการศึกษาเรื่องกลไกออกฤทธิ์
กลไกออกฤทธิ์ (Mode of Action) ของยากลุ่ม 19 ทำให้ไรเกิดอาการตื่นตัว ใจเต้นแรง สั่นและความดันขึ้นสูง
By Thirasak Chuchoet April 29, 2025
ยากลุ่ม 19: อะมิทราซ ทางเลือกสลับกลุ่มยาไร.!!
    ATP: Adenosine Triphosphate เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อพืช
By Thirasak Chuchoet April 25, 2025
ATP หรือ “เอทีพี” ย่อมาจาก อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (Adenosine Triphosphate) เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชทุกชนิด
แจกสูตร ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอกและสูตรเบรกใบอ่อน
By Thirasak Chuchoet April 23, 2025
แจกสูตร.!! ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอก และสูตรเบรกใบอ่อน-บล็อกใบอ่อน
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกคีเลต
By Thirasak Chuchoet April 22, 2025
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกนีเซียมคีเลต
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
By Thirasak Chuchoet April 21, 2025
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
เอกสาร
By Thirasak Chuchoet January 4, 2025
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย "การดูดซึมปุ๋ยและอาหารเสริมทางใบ"
More Posts