เตือน.!! โรคใบไหม้ในมะเขือเทศ

Thirasak Chuchoet • October 5, 2024
เตือน.!! โรคใบไหม้ในมะเขือเทศ​ แพร่ระบาดรุนแรงในฤดูเพาะปลูกช่วงปลายปีต่อต้นปี
โรคใบไหม้ในมะเขือเทศ (Late blight)

   โรคใบไหม้ (Late blight) เป็นหนึ่งในโรคที่สร้างความเสียหายให้กับมะเขือเทศมากที่สุดในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อราไฟท็อปธอร่า​ อินเฟสเทนส์ (Phytophthora infestans) ซึ่งเป็นเชื้อราที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิเย็นอย่างในช่วงปลายฤดูฝนต่อเข้าฤดูหนาว โรคใบไหม้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อใบของมะเขือเทศ แต่ยังสามารถลุกลามไปยังผล ลำต้นและกิ่ง ผลที่ติดเชื้อจะไม่สามารถจำหน่ายหรือบริโภคได้ การป้องกันกำจัดไม่ทันท่วงทีจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก

   เชื้อราไฟท็อปธอร่า​ ยังก่อโรคใบไหม้ที่สำคัญในพืชอีกหลายชนิด อาทิ โรคใบไหม้ในมันฝรั่ง​ โรคใบจุดตาเสือในเผือก​ หรือโรคใบไหม้สีดำในทุเรียน

อาการของโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ

    โรคใบไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของต้นมะเขือเทศ ไม่ว่าจะเป็นใบ ลำต้น หรือผล อาการที่พบบ่อย ได้แก่

   1. ใบ:บนใบจะปรากฏอาการแผลช้ำน้ำคล้ายถูกน้ำร้อนลวก แผลเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลอมสีเทา ต่อมาแผลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำและทำให้ใบไหม้แห้ง

   2. กิ่งและลำต้น: บนกิ่งและลำต้นจะเกิดรอยแผลสีน้ำตาลเข้มหรือดำ มีลักษณะช้ำน้ำคล้ายที่ใบ ซึ่งแผลเหล่านี้หากเกิดขึ้นบริเวณโคนกิ่งจะทำให้ยอดเหี่ยวและแห้งตายได้ แผลที่ลำต้นหากอาการรุนแรงสามารถทำให้ลำต้นหักพับและต้นหยุดการเจริญเติบโต

   3. ผล: ผลที่ติดเชื้อจะมีรอยแผลสีน้ำตาลหรือดำที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง บางครั้งผลอาจเน่าเสียหรือแข็งตัวเมื่อเชื้อราลุกลาม ผลที่ติดเชื้อจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวหรือบริโภคได้ เนื่องจากเนื้อภายในเสียหาย

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเกิดโรค

    โรคใบไหม้จะระบาดหนักในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิต่ำ (18-22 องศาเซลเซียส) เชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีเมื่อมีน้ำค้างหรือฝนตกต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเนื่องจากเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปกับฝนและน้ำได้ดี นอกจากนี้ การปลูกมะเขือเทศในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดีจะเพิ่มโอกาสให้เกิดการระบาดของโรคได้มากขึ้น

การแพร่กระจายของเชื้อโรค

    เชื้อราไฟท็อปธอร่า​ อินเฟสเทนส์ (P. infestans) สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางลม น้ำ และดินที่มีเชื้อเจือปน สปอร์ของเชื้อราสามารถลอยไปในอากาศและตกลงบนต้นมะเขือเทศ หรือสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรง เช่น การรดน้ำ หรือการใช้เครื่องมือทางการเกษตรที่ปนเปื้อน เชื้อรานี้ยังสามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางเมล็ดหรือผลที่ติดเชื้อ นอกจากนี้เชื้อราไฟท็อปธอร่า​ อินเฟสเทนส์ (P. infestans) ยังสะสมในดินอยู่ได้นานหลายปี

การจัดการและควบคุมโรคใบไหม้

   1. การใช้พันธุ์ที่ทนทานต่อโรค: ปัจจุบันมีพันธุ์มะเขือเทศที่ถูกพัฒนาให้มีความต้านทานต่อโรคใบไหม้ การเลือกใช้พันธุ์เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการระบาด

    2. การปลูกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการปลูกมะเขือเทศในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีน้ำขัง การปลูกในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดีจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรค หรือการเพาะปลูกไม่แน่นทึบเกินไปจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคได้

   3. การใช้สารป้องกันกำจัดโรค: การพ่นสารป้องกันกำจัดโรคก่อนการเกิดโรคจะสามารถช่วยป้องกันและลดการระบาดของโรคใบไหม้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือกรมวิชาการเกษตร สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่แนะนำ เช่น ทวินโป (สาร:ไดฟิโนโคนาโซล + อะซ็อกซี่สโตรบิน 12.5%+20% SC) อัตรา 10-15 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรผสมร่วมกับพีโคล70 (สาร:โพรพิเนบ 70% WP) อัตรา 30-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือพีเทน80 (สาร:แมนโคเซบ 80% WP) อัตรา 50-60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 1-2 ครั้ง แล้วสลับสารด้วย ดีโฟร่า (สาร:ไซมอกซานิล+แมนโคเซบ 8%+64% WP) อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

    หากพบอาการระบาดของโรค พ่นด้วย ทวินโป อัตรา 20 ซี.ซี. ร่วมกับ ดีโฟร่า อัตรา 30-50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่น 2-3 ครั้ง ห่างกันไม่เกิน 5-7 วัน

    นอกจากนี้สารป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดอื่นๆ ที่ใช้พ่นสลับเพื่อป้องกันการเกิดโรค อาทิเช่น พีท็อป 35 (เมทาแลกซิล 35% DS) อัตรา 40-60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร,พีมูเร่ (ไดฟีโนโคนาโซล + โพรพิโคนาโซล 15%+15% EC ;ควรพ่นเมื่อมะเขือเทศมีอายุมากกว่า 50-55 วันขึ้นไป) อัตรา 8-15 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร,แพ็คทวิน (ไดเมโทมอร์ฟ + ไพราโคลสโตรบิน 12%+6.7% WG) อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร,แพ็คสโตรบิน (ไพราโคลสโตรบิน 25% EC) อัตรา 10-15 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือโพรพาโมคาร์บ + เมทาแลกซิล (โพรพาโมคาร์บไฮโดรคลอไรด์ + เมทาแลกซิล 10%+15% WP) อัตรา 40-60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร เป็นต้น

   4. การกำจัดเศษซากพืชที่ติดเชื้อ: การเผาทำลายใบหรือลำต้นที่ติดเชื้อเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดแหล่งสะสมของเชื้อรา หรือนำไปฝังกลบลึก 1.5-2 เมตร

สรุปโรคใบไหม้มะเขือเทศ

    โรคใบไหม้เป็นโรคที่สำคัญสำหรับการปลูกมะเขือเทศ เนื่องจากสามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งในด้านผลผลิตและคุณภาพของผล การจัดการโรคนี้ต้องอาศัยการปฏิบัติทางเกษตรที่เหมาะสม และการควบคุมเชื้อราผ่านการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชร่วมกับวิธีเขตกรรมที่เหมาะสม ชาวสวนควรตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากโรค

แหล่งสืบค้น :

    อรพรรณ วิเศษสังข์ และจุมพล สาระนาค.2558.โรคพืชผักและการป้องกันกำจัด.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ : บริษัทสยามคัลเลอร์พริน จำกัด.164 หน้า.

ยาแมลง กลุ่ม 1 ออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์
By Thirasak Chuchoet June 11, 2025
ยาแมลง กลุ่ม 1 กลไกออกฤทธิ์โดยเข้าจับกับเอนไซม์อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้แมลงชักกระตุกและลาโลก
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความ
By Thirasak Chuchoet June 3, 2025
โรคราปื้นดำบนผลมะม่วง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกมะม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง โรคนี้แม้จะไม่ทำให้เนื้อผลมะม่วงเน่าเสียโดยตรง แต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพภายนอกของผล
คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาต
By Thirasak Chuchoet May 28, 2025
สารกำจัดแมลงกลุ่ม 14 มีจำหน่ายเพียงสารเดียว คือ คาร์เทปไฮโดรคลอไรด์ กลไกออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คุมควบกล้ามเนื้อไม่ได้ นำไปสู่ภาวะเป็นอัมพาตอ่อนแรง (Flaccid Paralysis) และลาโลกไป
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
By Thirasak Chuchoet May 27, 2025
เรื่องราวเกี่ยวกับคำศัพท์และความหมายของกลไกการออกฤทธิ์ของสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในการศึกษาเรื่องกลไกออกฤทธิ์
กลไกออกฤทธิ์ (Mode of Action) ของยากลุ่ม 19 ทำให้ไรเกิดอาการตื่นตัว ใจเต้นแรง สั่นและความดันขึ้นสูง
By Thirasak Chuchoet April 29, 2025
ยากลุ่ม 19: อะมิทราซ ทางเลือกสลับกลุ่มยาไร.!!
    ATP: Adenosine Triphosphate เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อพืช
By Thirasak Chuchoet April 25, 2025
ATP หรือ “เอทีพี” ย่อมาจาก อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (Adenosine Triphosphate) เป็นสารชีวเคมีที่กักเก็บและปลดปล่อยให้พลังงานสูงที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชทุกชนิด
แจกสูตร ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอกและสูตรเบรกใบอ่อน
By Thirasak Chuchoet April 23, 2025
แจกสูตร.!! ผสมปุ๋ยเกล็ดพ่นทางใบโดยใช้แม่ปุ๋ยดวงตะวันเพชร สูตรสะสมอาหารก่อนเปิดตาดอก และสูตรเบรกใบอ่อน-บล็อกใบอ่อน
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกคีเลต
By Thirasak Chuchoet April 22, 2025
เลือกใช้แมกนีเซียม (Mg) ตัวไหนดี.. ระหว่างแมกนีเซียมไนเตรท, แมกนีเซียมซัลเฟตเฮพตะไฮเดรต หรือแมกนีเซียมคีเลต
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
By Thirasak Chuchoet April 21, 2025
ปุ๋ยแคลเซียมคลอไรด์ไม่ใช่ปุ๋ยร้อน ดั่งการอุปมาอุปไมยเป็นยาร้อน-ยาเย็น
เอกสาร
By Thirasak Chuchoet January 4, 2025
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย "การดูดซึมปุ๋ยและอาหารเสริมทางใบ"
More Posts