โรคใบจุดในมะละกอ
โรคใบจุดในมะละกอและการป้องกัน

โรคใบจุดในมะละกอ (Papaya Leaf Spot Disease)
โรคใบจุดในมะละกอเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชและคุณภาพของผลผลิต การแพร่ระบาดของโรคนี้มักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือในช่วงที่ฝนตกหนัก ซึ่งเชื้อรามักเจริญเติบโตได้ดี
สาเหตุของโรคใบจุดในมะละกอ
โรคใบจุดในมะละกอมักเกิดจากเชื้อราในสกุลคอรีนีสปอร่า (Corynespora) เซอคอสปอร่า (Cercospora) และแอสโคไคต้า (Ascochyta) ซึ่งมีลักษณะการเจริญเติบโตที่ทำให้ใบมะละกอเกิดเป็นจุดสีน้ำตาลหรือดำ และบางครั้งอาจมีลักษณะเป็นวงกลมสีเหลืองล้อมรอบ การระบาดของโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา เช่น ความชื้นสูงและอุณหภูมิที่เหมาะสม
โรคใบจุดมะละกอที่พบบ่อย (ในประเทศไทย)
โรคใบจุดคอรีนีสปอร่า ในมะละกอ (Brown spot diseases)
เชื้อราสาเหตุ:คอรีนีสปอร่า แคสไซอิคอล่า (Corynespora cassiicola)
ลักษณะอาการ
โรคสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งที่ใบและผลของมะละกอ เป็นโรคที่สำคัญและพบได้บ่อย ในระยะแรกอาการที่ปรากฏบนใบจะเป็นแผลจุดขนาดเล็ก เท่าปลายปากกา แผลเป็นจุดช้ำสีขาว เนื้อใบรอบจุดมีอาการเหลืองล้อมรอบ เมื่อแผลขนายขนาดขึ้นจะเริ่มเห็นขอบแผลชัดเจนขึ้นและมีสีน้ำตาล ตรงกลางแผลยังคงเป็นสีขาวหรือสีเทา แผลกระจายตามหน้าใบมะละกอ เมื่อแผลพัฒนาขึ้นตรงกลางแผลจะแตกทะลุ


โรคใบจุดตากบ หรือโรคใบจุดสีน้ำตาล (Cercospora black spot)
เชื้อราสาเหตุ:เซอคอสปอร่า ปาปายี้ (Cercospora papayae)
ลักษณะอาการ
โรคเกิดขึ้นได้ทั้งที่ใบและผล พบได้บ่อยเช่นเดียวกับโรคใบจุดคอรีนีสปอร่า ในระยะแรกแผลที่ปรากฏเป็นจุดขนาดเล็กเท่าปลายปากกา จุดมีสีน้ำตาลอ่อนและเนื้อใบรอบแผลจุดมีสีเหลือง ต่อมาเมื่อแผลขยายขนาดขึ้นตรงกลางแผลจะมีสีน้ำตาล ขอบแผลช้ำสีเข้ม เมื่อแผลพัฒนามากขึ้นจะมีขนาดใหญ่กลางแผลเป็นจุดกลมสีขาว ครอบด้วยวงแผลสีน้ำตาล และขอบแผลช้ำสีคล้ำ บางครั้งแผลจุดอาจครอบด้วยวงแผลสีน้ำตาล 3-6 ชั้น


การป้องกันและการจัดการโรค
1. การดูแลพื้นที่ปลูก: การจัดการพื้นที่ปลูกให้มีการระบายอากาศที่ดี จะช่วยลดความชื้นที่เป็นสาเหตุหลักของการเจริญเติบโตของเชื้อรา การตัดแต่งใบที่หนาแน่นเกินไปจะช่วยให้แสงแดดส่องถึงและลดโอกาสในการเกิดโรค
2. การใช้สารป้องกันและกำจัดเชื้อรา:
การป้องกัน
พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช กลุ่ม 11+3 เช่น
ทวินโป(อะซอกซี่สะโตรบิน+ไดฟิโนโคนาโซล 20%+12.5% SC) สารเนื้อครีมไม่ทำให้เกิดอาการใบไหม้ หรือใบและผลแพ้ยา พ่นในอัตรา 10 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรผสมร่วมกับ
พีโคล70(โพรพิเนบ 70% WP) สารผงละเอียดสีขาว เนื้อฟู ละลายน้ำง่าย ไม่เป็นตะกอน และมีธาตุสังกะสีส่งเสริมให้ผลผิวนวล ใบเขียว อัตรา 30-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นอย่างน้อย 2 ครั้ง แล้วสลับพ่นด้วย
พีโคล70 จำนวน 1 ครั้ง แล้วจึงวนกลับไปพ่น ทวินโป ผสม
พีโคล70 เช่นเดิม และวนสลับสารเช่นนี้เรื่อยๆ โดยการพ่นแต่ละรอบห่างกัน 10-14 วัน นอกจากป้องกันโรคแล้วยังป้องกันการดื้อยาของโรคอีกด้วย
การกำจัด
เมื่อพบการระบาดของโรค แนะนำพ่นด้วยสารกลุ่ม 11+3 เช่นกัน โดยพ่น
ทวินโปอัตรา 15-20 ซี.ซี. ผสม
พีโคล70
อัตรา 50-60 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-5 วัน
3. การกำจัดใบที่ติดโรค:ควรทำการตัดใบที่ติดเชื้อออกจากต้นอย่างรวดเร็วและนำไปทำลายเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค
4. การปลูกพันธุ์ที่ต้านทานโรค: การเลือกใช้พันธุ์มะละกอที่มีความต้านทานต่อโรคใบจุด จะช่วยลดปัญหานี้ในระยะยาว
สรุป
โรคใบจุดในมะละกอเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง การป้องกันและจัดการโรคนี้ต้องใช้ความใส่ใจในการดูแลรักษาและควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การใช้สารป้องกันเชื้อราอย่างเหมาะสม การกำจัดใบที่ติดเชื้อ และการเลือกพันธุ์ที่ต้านทานโรค ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญในการรักษาและป้องกันโรคนี้ให้ได้ผลดี